นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งเลื่องชื่อแล้ว ถนนออร์ชาร์ดยังมอบประสบการณ์ที่น่าสนใจด้วยผลงานศิลปะกลางแจ้งที่อวดโฉมอยู่สองข้างทางถนน
สำรวจผลงานศิลปะกลางแจ้งบนถนนออร์ชาร์ด
นอกเหนือจากศูนย์การค้าและโรงแรมระดับหรูที่เรียงรายสองข้างทางถนนออร์ชาร์ดแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของผลงานศิลปะกลางแจ้งระดับโลกที่สร้างสรรค์โดยบรรดาศิลปินชาวสิงคโปร์และศิลปินที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ จากต่างประเทศ
ผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะตั้งอยู่ข้างหน้าห้างสรรพสินค้าและโรงแรมชั้นนำ คุณเพียงแค่ท่องเที่ยวไปตามคำแนะนำในคู่มือนี้และเดินท่องไปตามเส้นทางสายหลัก และตรอกซอกซอยอย่างเพลิดเพลิน
จากโรงแรมรีเจนท์ สิงคโปร์ ถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ สิงคโปร์
เริ่มต้นเส้นทางสายศิลปะในช่วงแรกของคุณที่ถนนออร์ชาร์ด ณ โรงแรมรีเจนท์ สิงคโปร์ โรงแรมระดับห้าดาวชั้นนำ ตรงทางเข้าโรงแรม คุณจะเห็น 1 Harmony Fountain (1982) ที่ออกแบบโดย Stephanie Scuris ประติมากรที่มีชื่อเสียง ผลงานชิ้นนี้ยิ่งโดดเด่นในเวลากลางคืน เพราะน้ำพุจะช่วยฉายแสงไฟแอลอีดีหลากหลายสีสันให้ผลงานนี้ยิ่งสวยเด่น
จากนั้นเดินไปตามถนนแทงลินสู่โรงแรม St. Regis Singapore ผลงานศิลปะสามชิ้นตั้งอยู่บริเวณทางเข้า โดยสองชิ้นที่มีสัดส่วนกลมใหญ่ คือ 2 รูปปั้นพระโพธิสัตว์ขี่มังกร (Dragon-Riding Bodhisattva) (2001) โดย Li Chen และ 3 รูปปั้น Reclining Woman (2004) โดย Fernando Botero รวมทั้ง 4 Sense Surround #1, #2, #3 and #4 ที่เป็นอลูมิเนียมทาสี (2006) ด้วยฝีมือสร้างสรรค์ของ Anthony Poon ศิลปินท้องถิ่นของสิงคโปร์
หากเดินต่อไปตามถนนแทงลิน ผ่านศูนย์การค้าแทงลิน คุณจะไปถึงโรงแรมออร์ชาร์ด พาเหรด ที่นี่เป็นที่ตั้งของ 5 Mother & Child (1980) ที่ตั้งอยู่อย่างสงบ ฝีมือสร้างสรรค์ของประติมากรชาวสิงคโปร์ผู้ล่วงลับไปแล้ว และ Ng Eng Teng เจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติ Cultural Medallion
เดินต่อไปจนถึงโรงแรมฮิลตัน สิงคโปร์ คุณเห็นผลงานที่งดงามสองชิ้นตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าโรงแรมไหม นั่นคือ 6 รูปปั้นนายพลเว่ย ชื่อ จิง เต๋อ และนายพลฉิน ซู เป๋า (Wei Chi Jing De & Qin Shu Bao) (1975) โดย Aw Eng Kwang หากมองขึ้นไปที่ส่วนหน้าของโรงแรม คุณก็จะเห็น 7 Eulogy to Singapore (1969) โดย Gerard D’Alton Henderson ที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางฟุต
หลังจากชื่นชมผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่งดงามนี้แล้ว เชิญเดินเข้าในโรงแรมเพื่อรับแอร์เย็น ๆ แสนสบายและเข้าสู่ทางเดินเชื่อมต่อไปยังโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ สิงคโปร์ มุ่งหน้าสู่ทางเข้าที่ใกล้กับออร์ชาร์ด บูเลอวาร์ด ประติมากรรมที่คล้ายใบไม้นี้มีชื่อว่า 8 Vitality (1994) โดย Sun Yu-li คุณจะเห็นผลงานศิลปะกลางแจ้งอื่น ๆ ของศิลปินชาวจีนท่านนี้ ซึ่งจัดแสดงอยู่ทั่วไปในสิงคโปร์
จากไอออน ออร์ชาร์ดสู่ห้างพารากอน
เส้นทางสายที่สองจะผนวกรวมเส้นทางช้อปปิ้งบนถนนออร์ชาร์ด เข้ากับการชื่นชมงานศิลปะที่น่าสนใจ เริ่มจากไอออน ออร์ชาร์ด คุณจะเห็น 9 Nutmeg & Mace โดย Kumari Nahappan (2009) ตั้งอยู่ด้านนอกทางเข้าหลัก ผลงานประติมากรรมที่พลาดไม่ได้นี้เป็นจุดถ่ายรูปสุดโปรดของนักท่องเที่ยว ดังนั้น อย่าลืมนำกล้องของคุณมาด้วย
เมื่อคุณมาถึงห้างหงี่ อาน ซิตี้ ที่ใหญ่โตเป็นแหล่งช้อปปิ้งสำคัญ โดยตั้งอยู่เลยจากวิสมา เอเทรีย คุณจะเห็นน้ำพุที่โดดเด่นด้วยผลงานประติมากรรมสองชิ้นที่เหมือนกันและสวยงามเจิดจรัส นี่คือ 10 Harmony (1995) โดยศาสตราจารย์ Liu Ji Lin มองไปที่รูปสิงโตหินเก่าแก่ที่บริเวณทางเข้า
จากน้้น ข้ามถนนไปที่ห้างพารากอนเพื่อชื่นชมงานประติมากรรมหกชิ้นของ Sun Yu-li ที่ชื่อว่า 11 การเฉลิมฉลอง, การแสดงความรัก, การขอความรัก, การพัฒนา, มิตรภาพ และการพักผ่อนหย่อนใจ (Celebrations, Endearment, Courtship, Development, Friendship & Relaxation) (2002) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากอารยธรรมเก่าแก่และงานศิลปะบนผนังถ้ำที่ย้อนอดีตไปถึง 20,000 ปี
จากสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่ซัมเมอร์เซ็ทถึง Winsland House 2
สถานที่สองแห่งนี้นับเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะสำหรับสาธารณชนที่มีชื่อเสียงที่สุดของสิงคโปร์ จากสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่ซัมเมอร์เซ็ท เดินไปตามถนนซัมเมอร์เซ็ทและถนนปีนังเพียงแค่ 200 เมตรก็ถึง Winsland House 2
ภายในสวนของอาคารสำนักงานแห่งนี้เป็นที่จัดแสดง 12 LOVE หรือผลงานประติมากรรมโดยฝีมือของศิลปินเลื่องชื่อ Robert Indiana จากจุดเริ่มต้นในฐานะการ์ดอวยพรเทศกาลคริสต์มาสที่สร้างสรรค์ขึ้นในทศวรรษ 1960 สู่ผลงานที่เป็นสัญลักษณ์ป๊อปอาร์ตแห่งยุคสมัย ซึ่งถูกนำมาทำซ้ำในหลากหลายรูปแบบและการนำเสนอ เวอร์ชันที่คุณเห็นอยู่นี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1993 และนำเข้ามาในสิงคโปร์โดยบริษัท Wing Tai Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารแห่งนี้
หินที่ถูกทิ้งขว้างจากความรักสู่ผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งชิ้นนั่นคือ 13 แดนเซอร์ (Dancer) (1993) โดย Sun Yu-li ประติมากรรมสีเงินนี้ตั้งอยู่นอกอาคารและหันหน้าเข้าหาถนนปีนัง ก่อนหน้านี้ ผลงานประติมากรรมทั้งสองชิ้นนี้เคยตั้งอยู่นอกพาร์ค มอลล์