ภาพของ Fort Gate ที่ Fort Canning Park
1 สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)

9.00 น.: เดินเล่นที่ Fort Canning (ฟอร์ทแคนนิ่ง)

ประวัติศาสตร์ในสถานที่อันร่มรื่น

เริ่มต้นการเดินทางด้วยอดีตที่มีชีวิตชีวาของสิงคโปร์โดยเดินชม Fort Canning Park (สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิ่ง) ในยามเช้า

สวนสาธารณะที่ร่มรื่นแห่งนี้แต่เดิมมีชื่อว่า Bukit Larangan (บูกิต ลารางกาน) หรือว่าเนินเขาต้องห้าม โดยเคยเป็นเขตพระราชฐานของกษัตริย์มัชปาหิตแห่งมาเลย์ในช่วงศตวรรษที่ 14 และเคยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ว่าการอาณานิคมสิงคโปร์

ผู้ที่สนใจประวัติศาตร์ควรเริ่มต้นที่ การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ Battlebox ซึ่งจะพาคุณไปเจาะลึกประวัติศาสตร์ของ Fort Canning และความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ผู้สนใจเรื่องอาหารอาจจะต้องการไปเดินชมตามเส้นทางของสวนเครื่องเทศ ที่คุณจะได้พบกับพืชนานาชนิดและเครื่องเทศต่างๆ ที่มักใช้ในอาหารสิงคโปร์

ภาพของ Rotunda Dome ใน National Gallery ภายใต้แสงธรรมชาติ
2 National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)

10.00 น.: National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)

ชมงานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจ

ใช้เวลาที่เหลือในช่วงเช้าเพื่อสำรวจโลกแห่งศิลปะและแรงบันดาลใจที่ National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)

อาคารนีโอคลาสสิกที่สวยงามแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของอาคารศาลฎีกาและศาลากลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของศิลปินชาวสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผลงานทั้งสิ้นมากกว่า 8,000 ชิ้น

หากคุณรู้สึกหิวในระหว่างที่เดินชมภาพผลงาน เชิญแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ National Kitchen by Violet Oon ซึ่งเสิร์ฟอาหารปารานากัน* ต้นตำรับ หรือคุณสามารถจองโต๊ะที่ร้าน Odette ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ 3 ดาวมิชลิน ที่ได้รับการยกย่องว่าอาหารอร่อยและจัดจานสวยงาม

*คำในภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ที่แปลว่า "เกิดในท้องถิ่น" ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หมายถึงชาวจีนเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย

ภาพด้านหน้าวัด Sri Mariamman Temple
3 Chinatown (ไชน่าทาวน์)

13.00 น.: Chinatown (ไชน่าทาวน์)

ความทันสมัยสไตล์ฮิปและมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่า

ย่าน Chinatown (ไชน่าทาวน์) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงงิ้ว ที่อยู่ของแรงงานอพยพชาวจีน และเต็มไปด้วยโรงยาฝิ่น แต่ปัจจุบันเป็นย่านที่ผสานรวมอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง ลองเดินเล่นไปในย่านนี้ คุณจะพบทั้งร้านขายชาสูตรดั้งเดิมและศาสนสถานที่มีอายุเก่าแก่ ตั้งอยู่เคียงข้างกับหอศิลป์ที่ทันสมัยและคาเฟ่น่านั่งสไตล์ฮิป

หากต้องการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของ Chinatown เชิญไปที่ Thian Hock Keng (วัดเทียนฮกเก๋ง) บนถนน Telok Ayer Street วัดที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์แห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาเจ้าแม่แห่งท้องทะเล (เจ้าแม่ทับทิม) และมีวิหารไม้ที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว

ด้วย โคปุรัม (ซุ้มทางเข้า) และงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทำให้ Sri Mariamman Temple (วัดศรีมาริอัมมันต์) ที่ตั้งอยู่เลียบถนน South Bridge เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อคุณถ่ายภาพทางเข้าด้านนอกเสร็จแล้ว อย่าลืมเดินเข้ามาชมรูปปั้นหินด้านในและผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามภายในวัด

หากคุณต้องการลองชิมอาหารกลางวันที่แตกต่างออกไป ลองแวะที่ Chinatown Complex (ไชน่าทาวน์คอมเพล็กซ์) ถนน Smith Street (สมิธสตรีท) ซึ่งถือเป็นศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ โดยมีอาหารอร่อยๆ มากมาย เช่น ปอเปี๊ยะ (แป้งห่อผักและไส้อื่นๆ ทอดกรอบ), ก๋วยจั๊บ และขนมหวานเย็นหอมอร่อยอย่าง ลอดช่อง เมื่ออิ่มแล้ว คุณอาจจะแวะไปร้านขายของที่ระลึกหรือของฝากที่ตั้งเรียงรายตามถนน Pagoda Street (ถนนปาโกด้า สตรีท) หรือเลือกซื้อ บัคกวา (หมูแผ่นหวาน) จากร้านใกล้กับถนน New Bridge (ถนนนิวบริดจ์)

หากต้องการรับรู้กลิ่นอายขนบธรรมเนียมของสิงคโปร์ เชิญแวะไปที่ Tea Chapter (ที แชปเตอร์) บนถนน Neil (ถนนนีล) หรือร้านน้ำชา Yixing Xuan Teahouse บนถนน Tanjong Pagar (ตันจง ปาการ์) เพื่อจิบชาหอมกรุ่น

ผู้หญิงกระโดดลงจากจุดกระโดดบันจี้จัมพ์ที่ AJ Hackett Sentosa
4 เกาะเซ็นโตซ่า

15.00 น.: Sentosa (เซ็นโตซ่า)

กิจกรรมและการผจญภัยสนุกๆ รอคุณอยู่

ตามตำนานเล่าว่าเกาะ Sentosa (เซ็นโตซ่า) เคยเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกโจรสลัดและเคยเป็นคุกและที่สังหารหมู่นักโทษ แต่ปัจจุบันเกาะเล็กๆ ที่สวยงามนี้ได้รับการแปลงโฉมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

เกาะรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของสิงคโปร์ ห้อมล้อมด้วยชายหาดที่มีหาดทรายขาวละเอียดสวยงามและกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นเร้าใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หากคุณต้องการอาบแดดและสนุกกับการเล่นกระดานโต้คลื่น ลองแวะไปที่หาด Palawan (ปาลาวัน) หรือ Tanjong Beach (หาดตันจง) แต่ถ้าคุณชอบเล่นเครื่องเล่นสนุกๆ ที่ท้าทาย คุณอาจต้องการนั่งรถไฟเหาะที่ Universal Studios Singapore (ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์) หรือคุณอาจจะไปลองกระโดดบันจี้จัมพ์หรือโหนซิปไลน์ที่ AJ Hackett Sentosa

ด้านนอก Raffles Hotel ที่งดงามอลังการในยามค่ำคืน
5 โรงแรมราฟเฟิลส์ (Raffles Hotel) สิงคโปร์

20:00 น.: Raffles Hotel (โรงแรมราฟเฟิลส์)

สัมผัสกับการต้อนรับจากโลกวันวานอันอบอุ่น

ใช้เวลาช่วงเย็นสัมผัสกับบรรยากาศต้อนรับอันทันสมัยในอาคารสถานที่ที่งดงามซึ่งเป็นมรดกตกทอดอันทรงคุณค่า นั่นคือ Raffles Hotel (โรงแรมราฟเฟิลส์) ที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ

อาคารที่สวยงามอลังการนี้เคยต้อนรับบุคคลมีชื่อเสียงมากมาย อาทิ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไปจนถึงนักเขียนชื่อดัง เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ แต่ “แขก” ที่สร้างความประหลาดใจให้มากที่สุดก็คือเสือที่หลุดมาจากคณะละครสัตว์บนถนน Beach และเดินดุ่มมาที่บาร์และห้องบิลเลียดของทางโรงแรม

หากคุณต้องการลิ้มลองอาหารนานาชาติ Raffles Hotel ก็มีบริการทั้งห้องอาหารฝรั่งเศสที่ทันสมัยอย่าง Le Dame De Pic, สเต๊กเฮาส์ Butcher’s Block และ The Tiffin Room ที่เน้นอาหารอินเดียเหนือโดยเฉพาะ

เรือล่องแม่น้ำสิงคโปร์ท่ามกลางบรรยากาศยามดวงอาทิตย์ตก
6 ท่าเรือโบ๊ทคีย์ (Boat Quay)

20:00 น.: Boat Quay

เรื่องราวริมแม่น้ำ

คุณอาจเลือกเพลิดเพลินไปกับ การล่องเรือนำเที่ยวยามเย็น ไปตาม แม่น้ำสิงคโปร์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ในอีกแง่มุมหนึ่ง

ความเป็นมาของสิงคโปร์และสายน้ำที่สำคัญสายนี้ร้อยรัดเกาะเกี่ยวกันอย่างแนบแน่น ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์นี้เองที่เซอร์ สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ ได้มาถึงสิงคโปร์เป็นครั้งแรก และยังเป็นจุดที่เจ้าชายแสง นิลา อุตมะ (Sang Nila Utama) จากสุมาตราได้ตั้งชื่อดินแดนนี้ว่าเมืองสิงโตเป็นครั้งแรก

บริเวณท่าเรือยังเคยเป็นแหล่งการค้าสำคัญซึ่งประกอบด้วยท่าเรือสามแห่ง แต่ปัจจุบันย่านนี้เต็มไปด้วยบาร์ คลับ และร้านอาหารต่างๆ ปิดท้ายการท่องเที่ยวของคุณด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลมาร์การิตาและเอร็ดอร่อยกับอาหารเม็กซิกันที่ Cafe Iguana หรือรับประทานน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ ที่ร้าน Song Fa Bak Kut Teh