สิงคโปร์นั้นเต็มไปด้วยงานศิลปะมากมาย ตั้งแต่หอศิลป์ระดับโลกไปจนถึงมุมถนนที่แสดงผลงานที่คุณไม่คาดคิด สนุกไปกับเส้นทางที่จะเพิ่มมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณ
วันที่ 1: งานศิลปะและแรงบันดาลใจ
National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)
ใช้เวลาช่วงเช้าที่ National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์) ที่ตั้งของหอศิลป์แห่งนี้เคยเป็นอดีต Supreme Court (ที่ทำการศาลฎีกา) และ City Hall (ศาลาว่าการ) ของเมือง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มาเที่ยวชมที่จะดื่มด่ำกับโลกแห่งงานศิลปะของสิงคโปร์และของเอเชีย นอกจากจะเป็นแหล่งรวมคอลเลคชั่นผลงานศิลปะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ห้องโถงของหอศิลป์แห่งนี้ยังได้รับเกียรติให้จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ระดับสากและศิลปินชาวสิงคโปร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีตั้งแต่ยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama), อ้าย เหว่ยเหว่ย (Ai Wei Wei) และมาร์ค รอธโก (Mark Rothko) ไปจนถึงหลิวคัง (Liu Kang) และตัง ดา วู (Tang Da Wu)
หากต้องการลิ้มลองอาหารสไตล์ฟิวชั่นเลิศรสที่นำเสนออย่างมีศิลปะ ลองแวะไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน Odette ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงามแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของเชฟ Julien Royer และเสิร์ฟอาหารรสดีและตกแต่งอย่างสวยงาม ร้านอาหารนี้ได้รับดาวมิชลินสองดาวในปี 2018 และมีชื่อเสียงในการตกแต่งอาหารหลักของยุโรป เช่น ฟัวกราส์ ให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ
เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์
สัมผัสประสบการณ์งานศิลปะที่หลากหลายของแดนสิงโตได้ที่ Esplanade - Theatres on the Bay (เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์) พื้นที่ที่หลากหลายและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา หรือที่คนสิงคโปร์เรียกว่าตึก “ทุเรียน” ตามรูปทรงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นนี้ เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปอย่างมาก
เพราะที่นี่เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมมากมายและงานนิทรรศการต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งมีตั้งแต่การแสดงละครเวทีที่เหมาะสำหรับครอบครัว ไปจนถึงการแสดงดนตรีแบบสดและการแสดงผลงานทัศนศิลป์ จึงเป็นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานรื่นเริง
ผู้หลงใหลงานวัฒนธรรมที่คาดหวังจะได้มุมมองเชิงลึกจากการสร้างสรรค์ละครเวทีที่ต้องอาศัยความละเอียดประณีต ควรลงทะเบียนเพื่อเข้าชม Esplanade Backstage Tours (ทัวร์ชมหลังโรงละครเอสพลานาด) ประสบการณ์นานสองชั่วโมงนี้จะเปิดม่านโรงละครเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชมการทำงานเบื้องหลังของศูนย์ศิลปะการแสดงที่ใหญ่ที่สุดของเกาะแห่งนี้ พร้อมด้วยทัวร์ชมหอแสดงคอนเสิร์ต ที่นั่งของนักดนตรีวงออร์เคสตร้า และห้องแต่งตัว
บริเวณใกล้เคียง—Marina Bay (อ่าวมารีน่า)
พอตกเย็น คุณสามารถเดินไปที่ Marina Bay ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อชมความงามของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ขอแนะนำให้คุณเดินข้าม Helix Bridge (สะพานเฮลิกซ์) ผลงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่น่าทึ่ง และตรงไปที่ Marina Bay Sands® (มารีน่า เบย์ แซนด์ส)
ตึกสูงระฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์บนเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์นี้ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง โมเช่ ซาฟดี (Moshe Safdie) ที่ได้แรงบันดาลใจจากสำรับไพ่และถ่ายทอดแนวคิดจนกลายมาเป็นอาคารที่แปลกตาแห่งนี้
คุณจะพบงานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจได้ในบริเวณโดยรอบ Marina Bay Sands® ด้วยเช่นกัน ลองแวะไปที่บริเวณล็อบบี้โรงแรมเพื่อชมงานสถาปัตยกรรม Wind Arbor ที่ส่องแสงระยิบระยับและตั้งอยู่ด้านหน้าทางทิศตะวันตกของห้องโถงโรงแรม ขณะที่ Rising Forest ผลงานของ Zheng Chongbin ที่เป็นต้นไม้ในกระถางเซรามิกทรงสูง ให้บรรยากาศของร่มไม้ที่แผ่ปกคลุมอาคาร
หรือคุณสามารถเที่ยวชมอาณาจักรที่จินตนาการและนวัตกรรมผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนที่ ArtScience Museum™ (พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทยาศาสตร์) อาคารรูปทรงดอกบัวนี้มักจัดงานนิทรรศการภายใต้ธีมต่างๆ ที่ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เช่น การเดินทางในอวกาศ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มทักษะด้านความคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ (Human Augmentation) และปฏิทรรศน์ทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Paradoxes)
วันที่ 2: ถนนอันจอแจและวัฒนธรรมที่หลากหลาย
Sultan Mosque (มัสยิดสุลต่าน)
Kampong Gelam (กัมโปงกีลาม) อดีตเมืองท่าและเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์นี้ เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์มาเลย์ในสิงคโปร์ และเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวมาเลย์ ชุมชนชาวอาหรับ และชุมชน Bugis (บูกิส)
คุณยังสามารถพบเห็นร่องรอยในอดีตได้จากโดมสีทองอร่ามของ Sultan Mosque (มัสยิดสุลต่าน) ที่ปรากฏให้เห็นโดดเด่นในย่านนี้ ศาสนสถานแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของชุมชนชาวมุสลิมในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1824 สำหรับสุลต่านฮุสเซนชาห์ สุลต่าน (ผู้ปกครองจักรวรรดิอิสลาม) องค์แรกของสิงคโปร์และได้รับการประกาศให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติในปี ค.ศ.1975
มัสยิดแห่งนี้ยังเปิดให้ผู้สนใจวัฒนธรรมประเพณีของอิสลามสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ รวมถึงผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ของมัสยิดนี้ อย่าลืมเข้าไปที่เว็บไซต์ของมัสยิดเพื่อเช็คเวลาเปิดทำการและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมในการเข้าชม
ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมมาเลย์ (Malay Heritage Centre)
เรียนรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันหลากหลายของย่าน Kampong Gelam ได้ที่ Malay Heritage Centre (ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมมาเลย์) อาคารแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังที่เป็นที่ประทับของสุลต่านพระองค์แรกของสิงคโปร์ มักจัดงานนิทรรศการ โปรแกรมและกิจกรรมที่น่านใจต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของชาวมาเลย์
งานนิทรรศการที่น่าสนใจที่เคยจัดขึ้น ได้แก่ งานศึกษาด้านแพทย์แผนโบราณของมาเลย์ กรณีศึกษาของภาพพิมพ์หินและวรรณกรรมในศตวรรษที่ 19 ตลอดจนงานนิทรรศการที่สำรวจรากเหง้าของชาวบูกิส
Aliwal Arts Centre
ศิลปินและผู้รักงานศิลปะการแสดงควรแวะมาที่ Aliwal Arts Centre สถานที่จัดงานแสดงหลากหลายแขนงนี้เป็นแหล่งรวมนักแสดงละคร นักเต้น และนักร้องโอเปร่าที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของสิงคโปร์ ตั้งแต่การแสดงดนตรีประเภทเครื่องกระทบไปจนถึงงานเทศกาลที่เฉลิมฉลองเพลงสไตล์ Afro Beat และงานศิลปะสไตล์เมือง รับรองว่าคุณจะพบกับงานอีเว้นท์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณต้องการถ่ายทอดศักยภาพภายใน
เที่ยวชมบริเวณใกล้เคียง—Haji Lane (ฮาจิเลน)
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจว่าทำไมย่าน Haji Lane จึงเป็นสถานที่สุดโปรดของบรรดาศิลปิน นักดนตรี และผู้สร้างสรรค์ผลงานประเภทต่างๆ ของสิงคโปร์ ย่านพื้นที่ที่ทันสมัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางย่าน Kampong Gelam และเต็มไปด้วยผลงานสตรีทอาร์ตที่ปรากฏบนกำแพงร้านค้า และบริเวณหัวมุม รวมทั้งที่นี่ยังมีบาร์ที่ซ่อนอยู่และร้านบูติคแบบแปลกๆ อีกด้วย
ขณะที่คุณเดินเข้ามาในถนนสายแคบๆ คุณจะสังเกตเห็นผลงานสตรีทอาร์ตที่โดดเด่นซึ่งปรากฏอยู่บนกำแพงตึก โดยมีตั้งแต่ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของอเมริกากลางและเม็กซิโกที่เรียกว่า เมโสอเมริกา ที่ปรากฏอยู่ที่ร้าน Piedra Negra ไปจนถึงงานจิตรกรรมฝาผนังสไตล์เรียลลิสม์ที่โดดเด่นที่ปรากฏอยู่ที่ Club Singapura
ที่นี่ยังเต็มไปด้วยบาร์ดีๆ หลายแห่ง อาทิ Good Luck Beerhouse ซึ่งมีคราฟต์เบียร์หลากหลายสูตร และ Bar Stories ที่นำสุราและเครื่องดื่มต่างๆ มาสร้างสรรค์ให้เป็นเครื่องดื่มค็อกเทลที่ไม่เหมือนใคร