ให้ Jahan Loh ศิลปินท้องถิ่น นำคุณเที่ยวชมสถานที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและหอศิลป์สมัยใหม่ในสิงคโปร์
1 เตียง บาห์รู
"ผมรักเตียง บาห์รูเพราะที่นี่ผสมผสานโลกเก่าและโลกใหม่ไว้ด้วยกัน" Jahan เล่า หากต้องการสัมผัสเสน่ห์ของเตียง บาห์รูอย่างเต็มที่ คุณควรเริ่มต้นที่ตลาดเตียง บาห์รู & ศูนย์อาหาร กับมื้อเช้าที่ชั้นสองและเดินดูส่วนอาหารสดที่ชั้นหนึ่ง
ที่สุดปลายถนน (ผ่านร้านกาแฟต่างๆ และ DegiosArt หอศิลป์อิสระ คือที่ตั้งของวัดฉีเทียนกง และเป็นวัดแรกในสิงคโปร์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าเห้งเจีย มีผู้ศรัทธาจำนวนมากจากหลายประเทศทั่วโลกเดินทางมายังวัดนี้เพื่อกราบไหว้และขอพร
เมื่อเดินสำรวจต่อไปทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ก็จะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยฮิปสเตอร์รุ่นใหม่ที่มาเดินเลือกซื้อแผ่นเสียงและงานศิลปะแบบแปลกๆ ที่ร้าน Curated Records ของคนท้องถิ่น ดังที่ Jahan เคยพูดไว้ว่า "เตียง บาห์รูนั้นเต็มไปด้วยฮิปสเตอร์ที่ไม่ทำตัวหยิ่งยโสจนเกินไป"
2 National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)
เชิญใช้เวลาช่วงบ่ายดื่มด่ำกับงานศิลปะที่หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ "การออกแบบสถาปัตยกรรมและพื้นที่ของหอศิลป์แห่งชาตินี้ถูกใจผมมาก เพราะเป็นการผสานรวมระหว่างสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่ และตะวันออกพบกับตะวันตก" Jahan เปิดเผย อาคารหอศิลป์แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของศาลฎีกาและซิตี้ ฮอลล์นี้ โดยปัจจุบันเป็นที่รวบรวมผลงานศิลปะของสิงคโปร์และของเอเชียอาคเนย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
3 Clarke Quay
ในช่วงเย็น เชิญตาม Jahan ไปนั่งดื่มและเฝ้าดูผู้คนที่สัญจรไปมากันที่ ท่าเรือคลาร์ก คีย์ สถานที่ที่คึกคักในยามค่ำคืนเพราะเต็มไปด้วยบาร์และคลับแสดงดนตรีสดต่างๆ รวมถึงซุค คลับที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในสิงคโปร์ ในปีค.ศ. 2006, 2007 และ 2010 ซุคได้รับการจัดอันดับให้เป็นคลับยอดนิยมอันดับ 10 ของโลกจากทั้งหมด 100 อันดับของนิตยสาร DJ Magazine และชื่อเสียงของคลับนี้ได้ทำให้สิงคโปร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ดีเยี่ยมระดับโลก
บาร์แห่งนี้ได้ย้ายมาที่ท่าเรือคลาร์ก คีย์ในเดือนธันวาคม ปี 2016 และเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของ Jahan "ซุคมีอิทธิพลต่อผมมากในสมัยที่ผมเริ่มโต [ผมได้รับอิทธิพล] จากเพลงและใบปลิวต่างๆ ของที่นี่ ซุคในสถานที่ใหม่ ทำให้ผมนึกถึงแรงบันดาลใจที่เคยได้รับในอดีต ขณะเดียวกันก็ยังมุ่งหน้าไปสู่อนาคต"