ให้ James Quan และ Winnie Chan แห่ง Bynd Artisan (บินด์ อาร์ทิซาน) พาคุณเที่ยวชมย่านต่างๆ ที่เป็นแหล่งรวมตัวของศิลปินที่มีอยู่มากมายในสิงคโปร์
1 ชิป บี การ์เดนส์ (Chip Bee Gardens)
"เราอยู่ในยุคที่ได้เห็นว่าเราเองกลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์ในท้องถิ่นที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบมากขึ้น" Winnie กล่าว และเพื่อให้คุณได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งถึงศักยภาพที่กำลังเติบโตของวงการออกแบบของสิงคโปร์ ลองแวะไปที่ ฮอลแลนด์วิลเลจ (Holland Village) เป็นที่แรก ย่านแห่งความสร้างสรรค์และเป็นหนึ่งในย่านฮิปที่สุดของสิงคโปร์ เต็มไปด้วยกิจกรรมของดีไซเนอร์ ศิลปินและช่างฝีมือ
ใช้เวลาในช่วงเช้าด้วยการเดินกินไอศกรีมจาก ซันเดย์ โฟล์ค (Sunday Folks) และสำรวจ ชิป บี การ์เดนส์ (Chip Bee Gardens) ซึ่งทอดยาวไปตามถนน Lorong Merah Saga (โลรอง เมอราห์ ซากา) ถนนสายนี้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารร่วมสมัย ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์สัญชาติสิงคโปร์ และหอศิลป์ต่างๆ
แฟชั่นเลิฟเวอร์ที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนที่มีเอกลักษณ์ด้วยเสื้อผ้าจากแบรนด์ท้องถิ่น ต้องมาที่ Ong Shunmugam Priscilla Shunmugam ผู้ก่อตั้งแบรนด์ไฟแรง ที่ทำงานร่วมกับ Winnie และ James ในปี 2016 ในการผลิตกระเป๋าคลัทช์ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานระหว่างผ้าทอในอดีตและองค์ความรู้ของ Bynd Artisan ด้านขั้นตอนการทำงานเครื่องหนัง
2 Bynd Artisan
เพิ่มดีกรีความรู้สึกดื่มด่ำกับงานศิลป์ของคุณได้ที่ Bynd Artisan ซึ่งถือเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดใน Chip Bee Gardens สตูดิโอศิลปะแห่งนี้คือสวรรค์สำหรับคนรักเครื่องเขียน ที่นี่คุณจะได้เลือกซื้อสมุดโน้ตทำมือที่มีให้เลือกมากมาย สำรวจผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง และเครื่องเขียนที่จัดแสดง และแม้กระทั่งสามารถมีส่วนร่วมในเวิร์กช็อปที่มีอยู่หลากหลายได้อีกด้วย ที่นี่ไม่ได้มีเพียงสินค้าเท่านั้น แต่บรรดาคนรักเครื่องเขียนจะเดินออกไปพร้อมความเข้าใจที่มากขึ้นในเรื่องของศิลปะและการเข้าเล่มหนังสือแบบทำมือ
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 Bynd Artisan ก็ได้มีโอกาสร่วมทำงานกับองค์กรและศิลปินผู้สร้างสรรค์อยู่เสมอๆ ดังนั้น โปรดอย่าอายที่จะขอให้พนักงานที่มีความมุ่งมั่นพาคุณเดินชมรอบๆ ร้าน และบอกเล่าถึงผลงานความร่วมมือครั้งล่าสุดที่จัดแสดง
Bynd Artisan คือผลงานจากความรักในศิลปะของทั้ง James และ Winnie และคุณจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้จากสมาชิกทุกคนในองค์กร ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งไปจนถึงพนักงานที่ให้บริการและช่างฝีมือผู้สร้างงานศิลปะ "รู้สึกปลื้มใจมากๆ ที่เห็นว่าแบรนด์นี้เติบโตและได้รับการยอมรับที่ดีตั้งแต่แรกเริ่มเพียงระยะเวลาอันสั้น เราปลูกฝังทัศนคติแบบผู้ก่อตั้งไว้ในตัวพนักงานทั้งหลาย และคอยกระตุ้นพวกเราในฐานะผู้ก่อตั้งให้เดินหน้าทุ่มเทอย่างเต็มที่ต่อไป" James เล่าให้ฟัง
3 Dempsey Hill
ใช้เวลาช่วงบ่ายตามล่าหาของที่ระลึกที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของคุณได้ดีที่สุดที่ เดมป์ซีย์ ฮิลล์ (Dempsey Hill)
Dempsey Hill ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความเขียวขจี เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาเดินช้อปปิ้งงานฝีมือ นักสะสมของเก่าควรพุ่งตรงไปที่ Woody Antique House (วูดดี้ แอนทีค เฮาส์) ซึ่งมีทั้งชิ้นงาน เฟอร์นิเจอร์ และของหายากของเอเชีย ขณะที่แฟชั่นนิสต้าตัวจริงควรไปเลือกดูสินค้าจากคอนเซ็ปต์สโตร์แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงและร้านมัลติแบรนด์ อย่าง โดเวอร์ สตรีท มาร์เก็ต (Dover Street Market) เหล่าบรรดาผู้รักงานฝีมือจะได้พัฒนามุมมองเรื่องความสวยงามในขณะที่พินิจพิเคราะห์คอลเล็กชั่นสร้างแรงบันดาลใจของดีไซเนอร์ที่จัดแสดงอยู่
4 กิลแมน บาร์แร็กส์
ลองไปเยี่ยมชม กิลแมน บาร์แรคส์ (Gillman Barracks) ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินทัศนศิลป์ที่รวมตัวกันอยู่ภายในค่ายทหารเก่าที่สร้างขึ้นในปี 1936 ผู้หลงใหลในงานศิลป์ที่ต้องการเพิ่มของสะสมในคอลเล็กชั่นหรือที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลศิลปะที่กำลังมาแรงของสิงคโปร์ ควรมาสำรวจดูหอศิลป์หลายแห่งที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่แห่งนี้ งานอีเว้นท์หลักของ Gillman Barracks คือ Art after Dark (อาร์ต อาฟเตอร์ ดาร์ก) ที่จัดขึ้นในเดือนมกราคมและกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับงาน สัปดาห์แห่งศิลปะในสิงคโปร์ (Singapore Art Week) ที่จัดในเดือนมกราคม โดยงานอีเว้นท์นี้จะประกอบไปด้วยศิลปินผู้มากความสามารถจากสิงคโปร์และทั่วโลก นิทรรศการศิลปะ และตลาดงานคราฟต์สำหรับนักสะสมที่มีวิสัยทัศน์
"Gillman [Barracks] อาจเป็นย่านยอดนิยมแห่งต่อไปสำหรับศิลปินงานคราฟต์ผู้สร้างสรรค์" James ให้ข้อสังเกต "เพราะมีพื้นที่กว้าง และมีอาคารทรงโคโลเนียลสวยๆ แบบนี้ด้วย"
นอกจากนี้ บรรดาผู้รักงานศิลปะยังควรแวะไปที่ ฟอสต์ แกลเลอรี่ (FOST Gallery) แกลเลอรี่ที่ Blouin Artinfo ยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหอศิลป์ชั้นนำในเอเชียในปี 2013 Stephanie Fong เจ้าของหอศิลป์แห่งนี้ เป็นเพื่อนกับ James และ Winnie และมีความรักในการจัดแสดงงานศิลปะและการทำงานร่วมกับศิลปินชาวสิงคโปร์และเอเชียเหมือนๆ กัน
หลังจากตามล่าหางานฝีมือและของหายากในช่วงบ่ายแล้ว คุณสามารถพักเบรกแล้วไปรับประทานมื้อค่ำที่ เน็กเก็ด ฟินน์ (Naked Finn) ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านโปรดของ Winnie เมื่อใดก็ตามที่เธอมาที่นี่ ร้านอาหารทะเลแห่งนี้ได้รับคำชื่นชมจากบทบรรณาธิการและสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับ ไล่ตั้งแต่ Conde Nast Traveller ไปจนถึง The Straits Times