Geylang Serai เคยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายที่สำคัญ และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวมาเลย์ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ โดยชื่อ Geylang Serai นั้นได้มาจากกิจกรรมการเก็บเกี่ยว serai (ตะไคร้) ที่มีอยู่มากมายในพื้นที่นั้น ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19

อดีตที่เต็มไปด้วยสีสันยังปรากฏร่องรอยให้เห็นในอาคารห้องแถวที่ซ่อมแซมใหม่ ศาสนสถาน และร้านอาหารเก่าแก่ดั้งเดิม ซึ่งยิ่งทำให้ Geylang Serai เต็มไปด้วยเรื่องราวให้คุณมาค้นหา ลองเดินสำรวจไปกับเราในย่านที่รุ่มรวยด้วยมรดกทางวัฒนธรรมพื้นเมือง

ย่านขายของและตลาดเก่าแก่
ผู้คนเดินชมโคมไฟที่วางขายตามร้านที่ Geylang Serai bazaar

Geylang Serai Market เป็นหนึ่งในตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดในสิงคโปร์ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางสังคมที่สำคัญและสถานที่ที่เหมาะให้คุณได้ลองชิมอาหารมาเลย์สูตรต้นตำรับ ที่พลาดไม่ได้ แกงปลากระเบน (Asam pedas stingray) (แกงรสเปรี้ยวและเผ็ด), เร็นดังเนื้อ (แกงเนื้อ) และ กล้วยแขก เมนูเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอาหารมาเลย์ที่จำหน่ายในศูนย์อาหารบนชั้น 2 ของตลาดสดแห่งนี้

หรือจะเลือกไปลองชิมอาหารพื้นเมืองได้ที่ Haig Road Food Centre ที่นี่เป็นศูนย์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในย่าน Geylang Serai และมีอาหารอร่อยๆ หลากหลาย รวมถึง โรตี จอห์น (แซนด์วิชออมเล็ต) และ ขนม Putu Piring (ขนมสาคูนึ่งราดด้วยน้ำตาลมะพร้าว) Mohamad Hashim คือเจ้าของร้าน Haig Road Putu Piring เขาได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในการฝึกทำขนมหวานโบราณชนิดนี้ให้มีรสชาติอร่อยที่สุด โดยเรียนมาจากคุณย่าของเขา

และถ้าคุณไปเที่ยวชมย่านนี้ในช่วงเทศกาลรอมฎอน อย่าลืมแวะไปที่ Geylang Serai Bazaar เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ถนนที่คึกคักสายนี้จะได้รับการประดับประดาไฟ มีงานเฉลิมฉลอง และอาหารริมทางสูตรต้นตำรับและอาหารสมัยใหม่นานาชนิดวางขายเรียงรายสองข้างทาง คุณจะได้พบกับอาหารเมนูหลักใน pasar malam (ตลาดกลางคืน) เช่น ขนมวาได (โดนัทแบบเค็มของอินเดีย) และ Mee Kuah (ก๋วยเตี๋ยวในน้ำสต๊อกรสเผ็ดจัดจ้าน)

สถานที่ ผู้คน และอดีต
ภายในของ The Intan

ย่านนี้ไม่ใช่แค่ย่านที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราว ประเพณี และประวัติศาสตร์ คุณจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิดที่ The Intan อาคารห้องแถวซึ่งต่อมาได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในช่วงหลังสงคราม Alvin Yapp เจ้าของสถานที่แห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความปรารถนาในวัยเยาว์ที่ต้องการสืบหาที่มาของตัวเอง เขารวบรวมข้าวของเครื่องใช้และของเก่าล้ำค่าของชาวเปอรานากัน* ไว้มากมาย และยังให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเปอรานากันอีกด้วย ผู้ต้องการไปเยี่ยมชม ต้องนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น ดังนั้นอย่าลืม ลงทะเบียน ก่อนจะแวะเข้าไป

ผู้หลงใหลและนักสำรวจทางวัฒนธรรมที่ต้องการชมสถาปัตยกรรมล้ำค่าที่มีคุณค่าทางประเพณีและศาสนา ควรแวะไปชมอาคารตึกแถวที่มีเสน่ห์แบบโบราณและที่พักอาศัยในย่านนี้ รวมทั้งไปไหว้พระที่ Sri Sivan Temple วัดฮินดูแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ เทพผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาฮินดู โดยวัดเดิมได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันในปี 1993

*คำนี้เป็นภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ หมายถึง "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปหมายถึงชาวจีนที่มีเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย