สิงคโปร์มีภัตตาคารชั้นดี แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ให้เที่ยวชมมากมาย ชนิดที่คุณเลือกกันไม่ไหวเมื่อต้องจัดโปรแกรมทัวร์ไปท่องเที่ยวดินแดนสิงโตแห่งนี้
คำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวอย่างคุ้มค่าด้วยสถานที่ท่องเที่ยว 11 แห่งเหล่านี้ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสสิงคโปร์แบบคนท้องถิ่น
ขนมอบสไตล์สิงคโปร์
ก่อนอื่น คุณต้องไปชิมของหวานแบบสิงคโปร์ให้ฉ่ำใจ เชิญแวะไปที่ย่านที่ใครๆ ก็นิยมไปกัน อย่างเช่น Dona Manis Cake Shop (อย่าลืมชิมทาร์ตช็อกโกแลตและพายกล้วยที่เป็นสัญลักษณ์ ก่อนที่ของจะหมดเสียก่อน)
แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าคุณต้องต่อแถวยาวอยู่สักหน่อย ทว่าก็คุ้มค่ากับการรอคอย ขนมขึ้นชื่อของทางร้านมักจะขายหมดก่อนเที่ยง ดังนั้นคุณต้องไปถึงร้านตั้งแต่เช้าๆ
ปาซาร์ มาลัม
มุ่งหน้าไปที่ ปาซาร์ มาลัม (ภาษามาเลย์แปลว่า "ตลาดกลางคืน") เพื่อไปลองชิมของอร่อยอื่นๆ เช่น เบอร์เกอร์ แรมลี่ (เบอร์เกอร์เนื้อวัวหรือไก่สับละเอียด ใส่มาการีน ชีส กะหล่ำปลี หอมใหญ่ ไข่ และคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุง), ตูตูกูเอห์(ขนมชั้น) และ มูอะห์จี (ขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นลูกกลม นำไปคลุกถั่วป่นและราดน้ำเชื่อม)
ขนมแสนอร่อยเหล่านี้มักมีราคาถูกมาก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติขนมของคนสิงคโปร์แบบขนานแท้และดั้งเดิมโดยไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าจะฉีก
ปาซาร์ มาลัมหลายแห่งยังมีร้านเกมและบูธขายของ ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เคสโทรศัพท์มือถือไปจนถึงตุ๊กตานุ่มนิ่ม ทั้งนี้ ปาซาร์ มาลัมเหล่านี้มักมีลักษณะคล้ายตลาดนัดกลางคืน และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่สนุกสนานในหลายย่านพื้นที่ โดยคุณสามารถไปที่หน้าเพจของ Singapore Night Bazaar ใน Facebook เพื่อดูข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับตลาดนัดเหล่านี้ที่จัดขึ้นหลายที่ทั่วเกาะ
ไอศกรีมข้างทาง
ลองถามคนสิงคโปร์ท้องถิ่นคนไหนก็ได้ พวกเขาอาจจะบอกคุณว่ารถไอศกรีมข้างทางคือร้านขายขนมหลักในวัยเด็กของพวกเขา รถตระเวนขายไอศกรีมเหล่านี้กลายเป็นของคู่กันกับย่านธุรกิจการค้าที่พลุกพล่านอย่าง Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด) และ Marina Bay (อ่าวมารีน่า) โดยไอศครีมนี้มีราคาถูกมากเพียงแค่อันละ S$1-S$1.50 เท่านั้น
ไอศกรีมที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ใส่ "ถ้วย" หรือ "โคน" เท่านั้น แต่คุณสามารถสั่งไอศกรีมแบบแซนด์วิชโดยใช้วาฟเฟิลบิสกิต หรือขนมปังแผ่นสีรุ้งอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ได้ด้วย ที่สำคัญ การซื้อไอศกรีมเดินไปกินไปนั้นเป็นวิธีคลายร้อนที่ดีที่สุดสำหรับเมืองร้อนแบบนี้
มีการปิดถนนในช่วงวันเสาร์อาทิตย์
บางครั้งก็มีการปิดถนนสายต่างๆ ในย่านแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่แสนคึกคัก เช่น Holland Village (ฮอลแลนด์วิลเลจ) และ Club Street (คลับสตรีท) ดังนั้นคุณจึงสามารถปาร์ตี้กันให้ฉ่ำใจหายห่วง Holland Village จะมีการปิดถนนไม่ให้รถผ่านเป็นประจำทุกวันในเวลา 18.30 น. ถึง 3.00 น. ในขณะที่ Club Street จะมีการปิดถนนทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 2.00 น.
ค้นหาบาร์ลับ
หากคุณกำลังมองหาปริศนาลึกลับยามค่ำคืน อย่าลืมแวะไปที่ The Other Room บาร์ที่ซ่อนตัวจากสายตาของผู้คนและต้องใช้รหัสผ่านในการเข้าใช้บริการ (เคล็ดลับเฉพาะ: คุณสามารถดูรหัสผ่านจากหน้าเพจใน Facebook ของทางร้านหรือขอรหัสผ่านจากร้านอาหารที่อยู่ติดกัน)
โรงภาพยนตร์แนวอินดี้
มาร่วมสัมผัสบรรยากาศการชมภาพยนตร์แนวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ของสิงคโปร์ ได้ที่โรงภาพยนตร์แนวอินดี้ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง ไปที่โรงภาพยนตร์ The Projector, Alliance Française Cine Club หรือ The Screening Room เพื่อสัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใคร และคุณจะไม่พบความพิเศษนี้จากโรงภาพยนตร์ในเครือใหญ่ตามห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์แนวอินดี้เหล่านี้ยังมีการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์และธีมไนท์ต่างๆ จึงเป็นแหล่งรวมของภาพยนตร์แปลกใหม่ที่น่าสนใจ
ศิลปหัตถกรรม
ลืมพวงกุญแจเมอร์ไลอ้อน (Merlion) ไปได้เลย แล้วหันมาทำของที่ระลึกด้วยตัวคุณเอง มาลองทำงานฝีมือร่วมกับบรรดาช่างฝีมือของ Mud Rock Ceramics (ซึ่งมีลูกค้าที่ล้วนแต่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง อาทิ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ) โดยลงเรียนคอร์สการทำเครื่องปั้นดินเผาที่นี่
หรือปลดปล่อยศักยภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่แฝงอยู่ในตัวคุณออกมา ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการทำงานศิลปะในระหว่างดื่มชาชั้นเยี่ยมที่ร้าน Arteastiq ซึ่งรวมบูติกคาเฟ่เข้ากับอาร์ตสตูดิโอ
สตรีทอาร์ต
คุณจะประหลาดใจแกมเพลิดเพลินไปกับผลงานสตรีทอาร์ตในสิงคโปร์ที่มีให้ชมอย่างหลากหลาย เพียงแค่คุณต้องรู้แหล่งเท่านั้น (เช่น ย่าน Kampong Gelam (กัมโปง กลาม) และ Tiong Bahru (เตียง บาห์รู) หรือคุณอาจแวะไปที่ ARTWALK Little India เพื่อชมงานสตรีทอาร์ตสไตล์ท้องถิ่น
ฟาร์มในเมืองใหญ่
สิงคโปร์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองในสวน เพราะเต็มไปด้วยสวนสาธารณะสวยๆ สวนหย่อม และพื้นที่การเกษตรในเมือง
ปัจจุบันนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในการปลูกต้นไม้ ซึ่งชอบใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจำนวนมาก ได้หันมาปลูกพืชผักในเมืองเพื่อนำมาทำเป็นอาหารกันมากขึ้น ลิ้มลองอาหารเพื่อสุขภาพที่ครบวงจรจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหารได้ที่ร้านอาหารแหลายแห่ง อาทิ Open Farm Community และ “กัมโปง สมัยใหม่” (กัมโปงหมายถึง หมู่บ้านเล็กๆ) One Kind House
รางรถไฟที่มีทัศนียภาพงดงาม
เดินทอดน่องสบายๆ ไปตาม Rail Corridor (เรลคอร์ริดอร์) แนวระเบียงสีเขียวยาว 24 กิโลเมตรซึ่งโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ไม่ต้องกังวล คุณสามารถเดินบนทางรถไฟได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากทุกวันนี้รถไฟไม่ได้วิ่งบนเส้นทางนี้แล้ว อันที่จริง แนวรางรถไฟนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงให้เป็นเส้นทางเดินป่าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ (ดูที่นี่เพื่อทราบข้อมูลล่าสุดว่ามี Rail Corridor ย่านไหนบ้างที่เปิดให้บริการ)
โรงแรมบูติก
ลองเลือกอะไรบางอย่างที่นอกเหนือจากโรงแรมหรูๆ ด้วยการจองห้องพักในโรงแรมบูติกซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและมีให้เลือกมากมายในสิงคโปร์
ให้วันหยุดพักผ่อนของคุณมีสีสันมากขึ้นด้วยการเข้าพักในห้องแพนโทนที่ Wanderlust Hotel หรือลิ้มลองรสชาติอาหารที่ร้าน F&B ต่างๆ ในโรงแรมสไตล์ฮิป Ann Siang House และตื่นตาไปกับความหรูหราโอ่อ่าของศิลปะแนวอาร์ตเดโค่ภายในโรงแรม The Vagabond Club