ในฐานะประเทศที่มีวัฒนธรรม ชาติพันธ์ และศาสนาต่างๆ กล่าวได้ว่าความหลากหลายคือจุดเด่นของสิงคโปร์ ชุมชนส่วนใหญ่ของเรามีงานเทศกาลเฉลิมฉลอง วัฒนธรรมประเพณี และแนวปฏิบัติของตนเอง แต่ถึงกระนั้นคุณก็จะเห็นว่าเราเฉลิมฉลองร่วมกันในฐานะพลเมืองสิงคโปร์
ด้วยเหตุผลห้าข้อต่อไปนี้จึงทำให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศพหุวัฒนธรรมที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคีมากที่สุด
![กลุ่มเพื่อนกำลังเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co.thumbnail.overview-image.730.411.jpg)
ชุมชนต่างๆ ของเราเต็มไปด้วยความหลากหลายและมีชีวิตชีวา
![กลุ่มเพื่อนที่ประกอบด้วยคนเชื้อชาติต่างๆ นั่งรับประทานอาหารด้วยกันที่ศูนย์อาหาร (ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์)](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item0.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
นับตั้งแต่ที่เราตกเป็นอาณานิคมในศตวรรษที่ 19 ถึง 20 ผู้อพยพย้ายถิ่นจากอินเดีย จีน และหมู่เกาะมลายูได้เดินทางมาสู่สิงคโปร์เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าและได้ตั้งรกรากบนแผ่นดินนี้
ปัจจุบัน พลเมืองของสิงคโปร์ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ชุมชนชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวอินเดีย ชาวยูเรเซียน และชาวเปอรานากัน แม้ว่าเราจะพำนักอาศัย ทำงาน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน แต่ก็ยังมีชุมชนชาติพันธุ์ต่างๆ ที่สงวนรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ให้คุณสามารถเที่ยวชมและศึกษาเรียนรู้ได้ ตัวอย่างเช่น ย่าน Joo Chiat/Katong (จูเชียต/กาตง) ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยของชาวเปอรานากัน ขณะที่ชาวอินเดียที่มาตั้งรกรากในช่วงแรกๆ ได้ลงหลักปักฐานในย่านที่ชื่อว่าLittle India (ลิตเติ้ลอินเดีย) และยังมีชนพื้นเมือง เช่น ชาวมาเลย์ ที่อาศัยอยู่ในย่าน Kampong Glam (กัมโปงกลาม) ตั้งแต่ยุคแรกๆ ของสิงคโปร์ โดยที่นี่เคยเป็นที่ประทับของสุลต่านมาเลย์ และมีชาวมาเลย์มาตั้งรกรากก่อนที่สิงคโปร์จะตกเป็นอาณานิคมเสียอีก
ชนชาติต่างๆ เหล่านี้มีภาษาแม่ของตนซึ่งยังคงใช้พูดสื่อสารกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แบ่งแยกชาวสิงคโปร์ออกจากกันแต่อย่างใด อันที่จริง ภาษาเหล่านี้มีการผนวกรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นภาษาที่เราเรียกว่าซิงกลิช (Singlish) หรือภาษาอังกฤษแบบสิงคโปร์ ซึ่งเป็นภาษาหลักอีกภาษาหนึ่งที่ชาวสิงคโปร์ใช้ในการพูดคุยกับเพื่อนๆ ครอบครัว และแม้แต่เพื่อนร่วมงาน
หากคุณต้องการได้ยินภาษาซิงลิชที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน คงไม่มีที่ใดจะดีไปกว่าที่ศูนย์อาหาร (ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์) ที่ที่ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมานั่งรับประทานอาหารร่วมกันและพูดคุยกันอย่างครื้นเครง
*คำในภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ที่แปลว่า "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึงชาวจีนเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย
"อาหารท้องถิ่น" ของเรามาจากทั่วโลก
![ข้าวมันไก่ของสิงคโปร์เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปใสหอมหวาน](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item1.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
แน่นอนว่าเราคงไม่ไปที่ศูนย์อาหาร (ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์) เพื่อพูดภาษาซิงลิช แต่เราไปที่นั่นเพื่อลิ้มลองอาหารอร่อยๆ "อาหารสิงคโปร์" ก็คล้ายกับผ้าม่านลายดอกพื้นเมือง นั่นคือมีความหลากหลาย และคุณสามารถลองชิมอาหารของวัฒนธรรมต่างๆ ได้ในที่เดียวคือที่ศูนย์อาหาร (ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์)
อาหารเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากชุมชนชาวมาเลย์ ชาวจีน และชาวอินเดีย รวมทั้งยังมีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่โรตีปราตา (ขนมปังแผ่นแบนของอินเดีย) ที่เรียบง่ายไปจนถึงแกงมาเลย์รสชาติเผ็ดร้อนและข้าวมันไก่ไหหลำที่ได้รับความนิยมสูง
นอกจากนี้ ยังมีการผสมผสานที่ปรับเปลี่ยนสูตรอาหารดั้งเดิมเหล่านี้ให้ร่วมสมัย ตัวอย่างเช่น Fifth Season Tangra Chinese Restaurant ที่นำเสนออาหารอินเดียปนจีน เช่น แกงแบบเสฉวน กับข้าวบาสมาตีผัด
![ขนมหวานที่เสิร์ฟที่ร้าน Candlenut ร้านอาหารเปอรานากันแห่งเดียวในโลกที่ได้ดาวมิชลิน](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item2.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
หัวใจหลักอีกสองประการของอาหารสิงคโปร์ก็คือ อาหารของชาวยูเรเชียนและอาหารของชาวเปอรานากัน อาหารของพวกเขาเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเอเชียกับวัฒนธรรมยุโรป คุณจะได้ลิ้มรสสตูว์รสเผ็ดและเนื้อย่างหอมๆ ที่ร้านอาหารยูเรเซีย และเนื้อตุ๋นกับแกงเผ็ดที่ร้านอาหารเปอรานากัน
หากต้องการชิมอาหารเปอรานากันที่อร่อยที่สุดในโลก คุณควรจองโต๊ะที่ Candlenut ร้านอาหารเปอรานากันเพียงแห่งเดียวในโลกที่ได้ดาวมิชลิน
สิงคโปร์ประกอบด้วยผู้คนที่นับถือศาสนาต่างๆ กันซึ่งมาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว
![ผู้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาสั่นกระดิ่งเพื่อขอพรที่ Thian Hock Keng Temple (วัดเทียนฮกเก๋ง) ในสิงคโปร์](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item3.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนามากที่สุดในโลก ทั้งนี้จากการวิจัยของศูนย์วิจัย Pew Research Center ปี 2014 ผู้คนที่มีความเชื่อแตกต่างกันสามารถจะพำนักอาศัย ทำงาน และแม้แต่ประกอบพิธีทางศาสนาร่วมกันในเมืองของเรา
หากคุณไปที่ Waterloo Street (ถนนวอเตอร์ลู) หรือ South Bridge Road (ถนนเซาท์บริดจ์) คุณจะพบศาสนสถานต่างๆ เช่น วัดในศาสนาพุทธ มัสยิด และโบสถ์ยิว ที่ตั้งอยู่เคียงข้างกัน
![Sultan Mosque - ด้านหน้าของมัสยิด และมีตึกแถวตั้งอยู่ด้านข้าง](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item4.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
ศาสนสถานเหล่านี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามน่าทึ่งของสิงคโปร์ด้วย ตัวอย่างเช่น St. Andrew’s Cathedral (มหาวิหารเซนต์แอนดรูว์) ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมนีโอกอธิก ซึ่งตั้งตระหง่านใน ย่าน Civic District (ซีวิค ดิสทริคท์) และ Sultan Mosque (มัสยิดสุลต่าน) ทรงโดมสีทองอร่ามที่งดงามอลังการ ดูสวยโดดเด่นท่ามกลางตึกแถวในย่าน Kampong Glam ที่มีสีสัน
และเราเฉลิมฉลองอย่างหนึ่งเดียว
![เทศกาลตรุษจีน - แผงขายของในย่าน Chinatown (ไชน่าทาวน์) ที่มีขายซองแดงและของที่ใช้ตกแต่งบ้านเรือน](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item5.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีน, วันฮารีรายอ อีดิลฟิตรี, เทศกาลดีปาวลี (ทีปาวลี), วันวิสาขบูชา หรือเทศกาลคริสต์มาส ชาวสิงคโปร์ที่มีเชื้อสายต่างๆ และนับถือศาสนาแตกต่างกัน และเรียกสิงคโปร์ว่าบ้านก็ล้วนแล้วแต่เฉลิมฉลองร่วมกันอย่างมีความสุข
สนุกสนานในงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา เช่น งานเทศกาลโคมไฟ (River Hongbao), ย่าน Geylang Serai (เกลัง เซอไร), ตลาดนัดริมถนนในช่วงเดือนรอมฎอน และงานคริสต์มาสออนอะเกรทสตรีท ที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆ การแสดงที่น่าสนใจ และเกมสนุกเร้าใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว
และถ้าคุณอยู่ในเมืองในช่วงเทศกาลดีปาวลี (ทีปาวลี) หรือไทปูซัม คุณควรไปเที่ยวที่ย่าน Little India (ลิตเติ้ลอินเดีย) เพราะที่นี่จะมีงานศิลปะจัดวาง การแสดง และแผงขายสินค้าพื้นเมืองที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในช่วงงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกเร้าใจนี้
หลากหลายฝันที่กลายเป็นจริงที่สิงคโปร์
![การแสดง Comedy at Canvas with Kumar - ที่แสดงโดยนักแสดงตลก Kumar](/th_th/editorials/a-kaleidoscope-of-cultures/_jcr_content/par/mobile_21_content_sl/sliderccpar1/editorial_generic_co/content/item6.thumbnail.image-path1.350.197.jpg)
นอกจากวัฒนธรรมพื้นเมืองแล้ว วัฒนธรรมป๊อปก็เป็นที่แพร่หลายในสิงคโปร์ เวทีศิลปะของเราเฟื่องฟู โดยมีการจัดงานนิทรรศการ คอนเสิร์ต และงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เช่น งานสัปดาห์ศิลปะสิงคโปร์ (Singapore Art Week) และงานเทศกาลนักเขียนของสิงคโปร์ (Singapore Writers Festival) ซึ่งจะช่วยเติมไฟฝันและความมุ่งมั่นให้คุณ
แม้แต่วัฒนธรรมย่อยๆ ก็ได้รับการยอมรับในสิงคโปร์ บรรดาผู้ที่ชื่นชอบผลงานอะนิเมะต่างมาร่วมตัวกันใน งานมหกรรมอนิเมะแห่งเอเชีย (C3AFA Anime Festival Asia) ส่วนแฟนๆ ที่หลงใหลหนังสือการ์ตูนพากันมาที่งาน Singapore Comic Con ขณะที่ผู้ชื่นชอบการแสดงตลกก็ตื่นเต้นกับการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนสนุกๆ หลายรายการ เช่น Comedy Masala ที่จัดขึ้นในเมือง
และไม่ว่าคุณจะสนใจเรื่องใดหรือกิจกรรมที่เฉพาะด้านเพียงใด คุณก็จะพบกับงานเทศกาลหรือการจัดแสดงกิจกรรมนั้นได้เสมอที่สิงคโปร์ รวมทั้งกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกันกับคุณด้วย